ขอเลือกน้ำหอมให้สาวๆ ลองไปช้อปดูเป็นของขวัญให้ตัวเอง แต่ละขวดจะมีกลิ่นเฉพาะตัวมาก ฉีดแล้วใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ จะยิ่งหอม และทุกกลิ่นสร้างความทรงจำให้เราได้แน่นอน
- La Vie Est Belle L’Eclat EDP จาก Lancome (50, 75 มล. 3,600, 4,600 บาท)
น้ำหอมยอดนิยมคราวนี้มาในเวอร์ชั่นใหม่กับกลิ่นสไตล์ฟลอรัลหอมหวานแต่เพิ่มความสดชื่นขึ้นอีกขั้นด้วยส่วนผสมของพืชตระกูลส้มทำให้กลิ่นมีความบางเบาขึ้น ฉีดแล้วนึกถึงผู้หญิงสวยแกลมแบบคลาสสิกแต่มีความเป็นมิตรและเข้าถึงได้ ที่พิเศษกว่าเดิมคือแพคเกจจิ้งขวดแก้วเจียระไนเป็นลายคริสตัลดูหรูหรามาก เหมือนเป็นเครื่องประดับชิ้นงามเลยทีเดียว
- Mediterranean Honeysuckle, Aerin (50, 100 มล. 5,200, 7,800 บาท)
น้ำหอมกลุ่มใหม่จาก Estee Lauder กับ The Aerin Fragrance Collection ครีเอตโดย Aerin Lauder หลานสาวคนเก่งของผู้ก่อตั้งแบรนด์เอสเต้ ลอเดอร์ มีทั้งหมดประมาณ 9 กลิ่น ซึ่งได้มาจากแรงบันดาลใจมาจากสถานที่ต่างๆและความทรงจำวัยเด็กของแอริน ทุกกลิ่นจะมีเอกลักษณ์และกลิ่นหอมแทบทุกตัวเลย แต่ที่อยากแนะนำคือกลิ่น Mediterranean Honeysuckle ออกแนวสดชื่นของสายน้ำท้องทะเลแต่ก็ยังสอดแทรกความเฟมินีนด้วยกลิ่นดอกไม้หอมสะอาด ที่อยากแนะนำเพิ่มคือ Ikat Jasmine และ Amber Musk ออกแนวหวานแต่สดชื่นเช่นกัน แพคเกจจิ้งก็สวยสะดุดตา รับรองฉีดแล้วจะรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงที่สงางามขึ้นมาในทันที
- Twilly d’Hermes จาก Hermes (85 มล. 5,600 บาท)
นำ้หอมกลิ่นหรูใหม่ทีทาร์เก็ตกลุ่มวัยสาวเห็นได้จากแพคเกจจิ้งสีสันสดใสแรงบันดาลใจจากผ้าพันคอทวิลลี่สุดคลาสสิก กลิ่นจะสดใสและอ่อนหวาน แต่สอดแทรกกลิ่นเผ็ดร้อนของสารสกัดขิง ทูเบอโรสและแซนดัลวู้ดซึ่งทำให้น้ำหอมตัวนี้มีความน่าสนใจมากและไม่เหมือนใคร
- My Burberry Blush จาก Burberry (50, 90 มล. 3,800, 5,400 บาท)
เป็นกลิ่นที่กลายคนน่าจะชอบเพราะลงตัวทั้งความหวานที่ไม่เลี่ยนจนเกินไปแต่ซ่อนความสดชื่นกำลังดีเพราะมีส่วนผสมจากกุหลาบและแอปเปิ้ลเขียวซึ่งเบลนด์เข้ากันอย่างลงตัว กลิ่นมีความบางเบาแต่ก็เข้มข้นมากพอที่จะฉีดไปงานกลางคืนได้ ใครที่ถูกกับกลิ่นนี้พอฉีดทิ้งไว้บนผิวสักพัก กลิ่นผิวหนังและเสื้อผ้าจะหอมสะอาดดีมากเลย
- AIR di Gioia และ SKY di Gioia (100 มล. 4,200 บาท) จาก Giorgio Armani
เราขอแนะนำ 2 กลิ่นนี้เลย เพราะสดชื่นทั้งคู่ โดยกลิ่น Air จะออกคลีนๆเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นหวานมากนัก ให้อารมณ์ของกลิ่นไอทะเลเย็นๆที่เบาสบาย สามารถฉีดได้ตลอดเวลาเพราะกลิ่นค่อนข้างเบา ส่วน SKY จะมีความเป็นเฟมินีนกว่าโดยได้แรงบันดาลใจจากท้องฟ้าสีชมพูอ่อนหวานยามเช้า มีส่วนผสมของกุหลาบ พีโอนีและลิ้นจี่
- Eau Des Jardins Spray จาก Clarins (100 มล. ประมาณ 2,050 บาท) (โอ เดส์ จาร์แด็ง)
โคโลญสเปรย์กลิ่นใหม่ล่าสุดที่เข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา ซึ่งเราว่าลงตัวที่สุดแล้วทั้งความสดชื่นและความหอมหวานกำลังดี โดยกลิ่นคลาสสิกตลอดกาลจะเป็นขวดแดงคือ Eau Dynamisante (โอ ดีนามิซองต์) ซึ่งจะออกแนวสดชื่นแมนๆหน่อย แต่กลิ่นใหม่นี้จะเพิ่มกลิ่นแนวพืชตระกูลส้มเข้าไปและกลิ่นจะเข้มข้นกว่า เหมาะมากสำหรับฉีดในช่วงซัมเมอร์
- Cherry Bloom EDT จาก Yves Rocher (100 มล. 890 บาท)
เป็นน้ำหอมราคาย่อมเยาว์ที่จัดว่าใช้ได้ทีเดียว คือใช้ง่าย กลิ่นจะหอมสดชื่นแบบอ่อนบางและติดทนพอประมาณ แต่ข้อดีคือเราสามารถฉีดได้โดยไม่ต้องกังวงว่าจะฉุนเกินไปหรือไม่ และกลิ่นนี้เหมาะสำหรับช่วงสปริงที่ชวนให้นึกถึงมวลดอกซากุระกำลังเริ่มผลิบาน
- Clementine California จาก Atelier Cologne (ประมาณ 4,250 บาท) (แต่ละกลิ่นจะราคาไม่เท่ากัน และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น)
เพิ่งวางจำหน่ายในบ้านเรามาหมาดๆ (ขณะนี้มีเฉพาะที่ King Power รางน้ำ) กับคอนเซ็ปต์ใหม่ของตระกูลน้ำหอมคือ Cologne Absolue เป็นโคโลญที่มีความเข้มข้นเหมือนน้ำหอมแต่มีความบางเบาและใช้ง่าย เราว่าน่าจะถูกใจทั้งผู้ชายและผู้หญิงหลายคน เพราะบ้านเราอากาศร้อนและทุกกลิ่นของแบรนด์นี้จะไม่ฉุนจัดจนเกินไป โดยเกิดจากการเบลนด์วัตถุดิบคุณภาพหลากหลายชนิดจนได้เป็นกลิ่นเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร กลิ่นขายดีของแบรนด์นี้คือ Pink Pomelo from Florida ออกแนวกลิ่นส้มเกรพฟรุ้ตสดชื่น แต่ส่วนตัวพวกเราชอบกลิ่นใหม่ล่าสุดคือ Clementine California มาก เพราะเป็นกลิ่นแนวซิตรัสสดชื่นที่ไม่บาดจมูก แต่สอดแทรกความนุ่มละมุนและอบอุ่นที่ทำให้กลิ่นมีความซับซ้อนขึ้น ฉีดแล้วผิวหอมดีมากเลย
Copyright www.beautygetshealthy.com