บิวตี้กูรูฟันธง นี่คือ 40 สกินแคร์ที่ใช้ดีที่สุด!

40 best skincare for all time

ขอต้อนรับชาวเพจ Beauty Gets Healthy อย่างเป็นทางการด้วยเรื่องนี้เลยค่ะ สิบกว่าปีที่พวกเราใช้ผลิตภัณฑ์บิวตี้มาแบบเยอะมากๆ ทั้งของฝั่งอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย มีหลายแบรนด์ หลายผลิตภัณฑ์เลย ที่ไม่ว่าจะผ่านมายังไง บอกเลยว่ายังอยู่ในดวงใจเราเสมอ เราเลยคุยกันว่า ถ้าอย่างนั้นมาทำไดเร็คตอรี่ให้สาวๆกันเถอะ (แบบไม่ได้จัดอันดับนะคะ) ว่าตัวไหนที่เราอยากให้ลอง เพราะ-ใช้-ดี-มาก อาจต้องไถดูยาวกันนิดนะคะ แต่คุ้มแน่นอนค่ะ ขอให้เป็นไบเบิลเพลินๆ เวลาอยากช้อปสกินแคร์สักตัวนะคะ ทะแด๊นนนนน…… เริ่มเลยค่ะ!!!!

1. Genius White Concentrated Brighting Essence, ประมาณ 3,500 บาท จาก Algenist มีขายใน Sephora ตัวนี้ล่ะใช้แล้วผิวเปลี่ยนของจริง คือไม่อยากจะเชื่อเลย! เราใช้จนหมดขวด แล้วไปซื้อมาอีกขวด คือเป็นเอสเซ้นส์เนื้อบางเบา เป็นสูตรเฉพาะของแบรนด์นี้คือมี อัลกาไบรท์ คอมเพล็กซ์ ที่สกัดมาจากสาหร่ายอัลจีและมีอัลกูโรนิค แอซิด ทั้งหมดทาผิวหน้าเราไปเรื่อยๆ พวกริ้วรอยนี่เลือนไปเลย ผิวใสขึ้นจริง และช่วยลดเม็ดสีเมลานินให้ค่อยๆ จางลงด้วย สิบคะแนนเต็มเลยตัวนี้!!

2. Immortelle Brightening Essence, 2,950  บาท จาก Immortelle อิมมอร์เทลขึ้นชื่อว่าคือ ดอกไม้แห่งแสง ขึ้นที่ฝรั่งเศสตอนใต้ เป็นดอกไม้ที่ทนทุกสิ่งในโลก สกัดกันมาแบบอินเนอร์มาก ใส่ใจตั้งแต่ดิน แสง การดูแลดอกไม้นี้ แล้วพอใช้ เอสเซนส์ตัวนี้ล่ะ เห็ดได้อย่างแรกเลยคือสีผิวสม่ำเสมอขึ้น และหน้ากระจ่างขึ้นจริงๆ เนื้อของเอสเซนส์หอมอิมมอร์เทลอ่อนๆ เนื้อบางใส ใช้แล้วอารมณ์ดีเลย

3. Pro-Intense Lift Effect Youthful Contours Daily lotion , 3,450  บาท จาก Elemis โลชั่นแบรนด์แกลมมากจากอังกฤษ ขอคารวะเลย คือมีสเต็มเซลล์สของดอกเอเดลไวส์ส และสารสกัดเทพๆ อีกหลายตัว ที่โอ้ มาย ก้อด! ใช้แล้วอเมซิ่งจริงๆ ความหย่อนของแก้มเรามันดีขึ้นมาก เนื้อผิวแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะตรงจอว์ไลน์นี่ เนื้อไขมันเกินๆ ที่ทำให้หน้าเรากางหน่อยๆ อะ  ตื่นมาหน้าเรียวขึ้นเลย

4. Le Blanc Intensive Night Whitening Treatment, 10,750  บาท จาก Chanel อันนี้เด็ดอีกเหมือนกัน เป็นทรีทเมนท์สูตร 28 คืนของชาเนล มีเพื่อนคนหนึ่งเธอย้ำๆๆๆ ให้ใช้เซ็ตนี้ให้ได้ว่ามันเลิศมาก คือหลังจาก 28 คืนนี้เห็นผลจริงๆ ว่าหน้ากระจ่างใสขึ้น ขาวๆ ขึ้นด้วย แล้วมีความเปล่งประกายของผิวเกิดขึ้น จำไว้อีกนิดสามตัวคือ ทีเอ็กซ์ซี สูตรของเลอ บลังค์ ช่วยยับยั้นเม็ดสีที่ผลิตมาทำให้หน้าเรากระด่างกระดำ และมีสารสกัดเพิร์ลโปรตีนด้วย ชอบมากกก เนื้อนุ่มดี ซึมเร็ว ใช้แล้วช่วยลดความมันของหน้าเราด้วย ดีงามจริงๆ

5. Custom-Repaired Smart Serum, 4,200 บาท จาก Clinique เป็นตัวเด่นของClinique ที่ออกมาแล้วเขย่าวงการเลย ตัวนี้คือเซรั่มที่ทาผิวแล้วเข้าไปทำงานตรงจุดที่มีปัญหาเลย แล้วก็ช่วยได้หลายอย่างทั้งเรื่องริ้วรอย ผิวที่ไม่เฟิร์ม จุดด่างดำ และให้ผิวมีประกายขึ้น ใช้แล้วจะรู้สึกว่ารอยคล้ำๆ ที่ชอบขึ้นเวลาเราเครียด ตากแดดมาเยอะจะค่อยๆ เลือนไป เป็นเซรั่มที่หลายคนใช้แล้วติดใจแน่นอน

6. Soothing Essential Oils Intensive Complex และ Soothing Trace Elements Intensive Complex, แพ็คคู่ประมาณ 4,990 บาท จาก Anne Semonin

2 ตัวนี้มาตอนที่ผิวเยินๆ เลย ดีใจมากที่ได้เจอ คือว่าผิวรอยแดง ผิวแห้งขุย ผิวแพ้ง่าย ใช้แล้วผิวหายโดยที่ไม่ต้องไปหาหมอผิว เพราะใน 2 ตัวนี้ล่ะมีเอสเซนเชียล ออยล์เป็นสารสกัดสำคัญ รวมกันหลายตัวเลย แล้วต้องใช้คู่กันนะ ผิวจะแบบเหมือนได้อะไรชะโลมให้ผ่อนคลาย รอดจากทุกสิ่ง เชื่อเถอะค่ะถ้าเกิดอะไรงงๆ ขึ้นที่ผิว ลองใช้ 2 ตัวนีเลย หรือจะเกิดแบบรอยจากสิว แพ้น้ำมาจากที่ไหนไม่หายสักที น้ำมันอันนี้ช่วยได้จริงๆ ค่ะ

7.Hydra Zen NeocalmTM Multi-Relief Anti-Stress Moisturising Cream, 2,700 บาท จาก Lancome เนื้อเจลครีมที่หอมผ่อนคลาย เหมาะสำหรับผิวแห้งที่ไม่ชอบความเหนอะ แนะนำให้แช่ตู้เย็นให้เย็นจัด แล้วทาก่อนนอน จะผ่อนคลาย และผิวจะสดชื่นขึ้น สาวผิวขาดน้ำ ผิวเหนื่อย ผิวแห้งที่อยู่ในเมืองร้อนๆ หรือ ใครที่ต้องขึ้นเครื่องบินบ่อยๆ จะรักตัวนี้มาก

8. Facial Treatment Essence, 4830 บาท จาก SKII ชื่อย่อของตัวนี้คือ น้ำพิเทร่า มาจากน้ำสกัดจากเหล้าสาเกของญี่ปุ่น สูตรนี้ล่ะที่สาวญี่ปุ่นเขาใช้แล้วหน้าเด้งกัน กลิ่นอาจจะแปลกๆ แต่ลองเอามาลูกหน้าเช้าเย็นๆ ทุกๆ วันดูสิ ผิวสุดจะตึงขึ้นมากๆ ชอบมากกก ผิวสดขึ้น และที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือ รูขุมขนกระชับ เล็กขึ้นเลย ใช้สำลีเช็ดหน้าก่อนทาเซรั่ม มอยส์เจอร์ตัวอื่นๆ

9. Blue Orchid Face Treatment Oil, 2,100 บาท จาก Clarins เป็นออยล์สำหรับผิวขาดน้ำ กลิ่นหอมผ่อนคลายมาก เวลาใช้ก่อนนอน ตื่นเช้ามากลิ่นยังจรุงอวลอยู่บนผิวหน้าเรา รู้สึกเป็นสาวตัวหอมเลย แล้วผิวก็จะชุ่มชื้นขึ้นด้วย

10. Parsley Seed Anti-Oxidant Serum, 2,250 บาท จาก Aesop เซรั่มตัวนี้เนื้อกึ่งออยล์ที่ให้ความชุ่มชื่นกำลังดีกับผิว กลิ่นอะโรมาเธราปีลาเวนเดอร์เบาๆ ใช้ในวันที่รู้สึกเหนื่อยล้า ผิวจะมีพลัง จิตใจก็อัพขึ้นมาเลย สดชื่นแบบมีความสุขกับตัวเองดี

11. Micro Essence Skin Activating Treatment Lotion, 3,700 บาท จาก Estee Lauder โลชั่นน้ำที่ให้ความชุ่มชื่นสูง แนะนำให้ใช้คู่กับ Advanced Night Repair ของเอสเต้ ผิวจะฟูขึ้นทันที มีส่วนผสมเข้มข้นที่ได้จากกระบวนการหมักบ่ม ตัวนี้ทำเหมือนดีท็อกซ์สารพิษที่ผิวเราเจอมาทั้งวัน เหมือนทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกให้เรา ก่อนที่ผิวเราจะไปเจอกับอะไร

12. 8-Flower Nectar ประมาณ 4,500  บาท จาก Darphin ดาร์ฟางนี่เด่นเรื่องน้ำมันมาก เป็นเจ้าแม่ของโลกเลย ทำให้เราเข้าใจว่าจริงๆ แล้วออยล์ไม่ได้มัน อันนี้คือน้ำมันจากดอกไม้ 8 ดอก และมีส่วนผสมจากสมุนไพรเยอะมาก ผิวได้สารอาหารที่เดียวเพียบเลย ผิวเหนื่อย นอนน้อย ใช้อันนี้กับครีมบำรุงผิวอะไรก็ได้ ผิวหน้าจะฟู และเอาพวกความเหนื่อยล้าออกไปได้

13. Advanced Genifique Youth Activating Concentrate, 3,900 บาท จาก Lancome กรี๊ดเลยตัวนี้ ถือเป็นพรีเซรั่มตัวแรกๆ ของโลกที่แบบสาวๆ ทั้งโลกต้องเคยได้ลองใช้กันทั้งนั้น ตัวเดียวจัดการทุกสิ่งบนหน้าให้เรา เป็นอีกตัวแนบแน่นในความทรงจำว่าใช้ดีมากๆๆ คือช่วยทั้งผิวนุ่ม ผิวดูเปล่งประกาย ริ้วรอยเลือนลง สีผิวใสขึ้น เห็นผลแน่นอน คือรู้สึกจริงๆ ว่าใช้แล้วเหมือนได้ผิวใหม่ และมีเทคโนโลยีแอดวานซ์ดจัดๆ ของลังโคมเลย ถ้าไม่รู้จะลองอะไรให้ชัวร์ที่สุด เจเนฟีคนี่ล่ะค่ะ เราค่อนข้างมั่นใจ

14. Huile prodigieuse, 1,050 บาท จาก NUXE เป็นออยล์อเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งหน้า ผม และตัว เหมาะสำหรับพกเวลาเดินทาง ไม่ต้องเอาอะไรไปอีกแล้ว กลิ่นละมุนเป็นสาวฝรั่งเศสเดินเล่นในสวนโบทานิคมาก เนื้อค่อนข้างเข้มข้น ชุ่มเลย ใช้นิดเดียวทาได้ทั่วหน้า อังที่มือเราแล้วถูกนวดบนหน้า สุดจะผ่อนคลาย

15. Concentrate Emulsion, 3,800    บาท จาก Three เป็นแบรนด์ไฮโซของแจแปนที่กลิ่นอะโรม่ามาก ทำให้เวลาเราดูแลผิวเรา มีชัยไปกว่าครึ่ง คือเราจะรู้สึกรอคอยเวลานี้ แบบว่าอยากทาครีมบำรุงผิวมาก แต่แนะนำให้ใช้ร่วมกับตัวอื่น อย่างคนผิวแห้ง ก็ทามอยส์เจอร์เนื้อครีมตามด้วย ตัวนี้จะทำให้ผิวไม่มีความมันใดๆ ให้ครีมบำรุงตัวอื่นซึมเข้าผิวได้ง่าย เราคอนเฟิร์มาว่า ใช้แล้วติด แบบเลิกไม่ได้เลย

16. Green Tea Seed Serum, 928 บาท จาก Innisfree เนื้อเซรั่มเบามาก ใช้ตอนหน้าร้อนจะเลิฟเลย สาวทุกผิว โดยเฉพาะผิวมัน ผิววัยรุ่น ผิวที่เป็นสิวง่าย จะชอบเลย ที่เด่นมากคือหอมชาเขียว ชาเขียวของอินนิสฟรีมาจากเกาะเจจู เกาะที่บริสทุธิ์ที่สุด และดินที่ปลูกชาเขียวถือเป็นดินรุ่นท็อปทรีของโลกเลย

17. First Care Activating Serum, 2,500  บาท จาก Sulwhasoo เป็นเซรั่มที่เบามาก ใช้ก่อนเซรั่มตัวอื่นๆ เลย เหมาะมากกับเป็นตัวแรกของผิวที่ลง จะเข้าผิวได้ง่าย แล้วพอลงตัวอื่นตามมา สารอาหารจากตัวอื่นจะเข้าไปทำงานกับผิวได้ดีเลย มีสารสกัดจากโสมเกาหลีของแท้ ชอบคือช่วยบูสท์ผิวเราให้ตื่นตัว มีชีวิตชีวา ใช้ๆ ไปผิวจะสดใส

18. Moisture Liposome, 3,500 บาท จาก Kose Cosme De Corte ตัวนี้ขลังมาก ออกมา 14 ปีแล้ว ยังจำได้เลยตอนนั้นที่ใช้ เราชอบเทคโนโลยีมากที่ให้สารอาหารไปที่ผิวแบบลงลึก และไม่ทำให้ผิวเหนอะเลย ใช้แล้วผิวแข็งแรง ฟื้นฟูสุดๆ เป็นตัวขายดีตลอดการ ให้ความชุ่มชื่นสวยๆ กับผิว คนผิวมันใช้ก็ไม่เป็นสิวอุดตัน แนะนำอย่างแรง!

19. Metabolizer ME Superior,3,800 บาท จาก Ipsa รักมากเลยตัวนี้ คือนักวิทยาศาสตร์ของอิปซ่าเขาตั้งใจคิดค้นมากันแบบจริงใจสุดๆ เขาคิดมาเพื่อให้เข้ากับผิวของสาวไทย รู้สึกใช้แล้วผิวอิ่มน้ำ คือเหมาะกับอากาศบ้านเรา แห้งสบายผิว ผิวยืดหยุ่น และสดใสขึ้นหลังใช้ได้ไม่กี่วัน มาทีขวดใหญ่อ้วนเลย รู้สึกใช้แล้วคุ้ม และถ้าใครไปไหนไม่ถูก อยากใช้สกินแคร์ที่ดีมากๆ และเข้าใจง่าย คือเราอยากให้ลองตัวนี้เลย

20. Aquasource Rich Crème, ประมาณ 1,600 บาท จาก Biotherm มอยเจอไรเซอร์เนื้อครีมชุ่มฉ่ำ ทาผิวแล้วเย็นสบาย เข้าผิวทันทีแล้วบูสท์ให้ผิวเราเฟรช ฟู อิ่มน้ำ ดูดีขึ้นมาในพริบตา ถ้าซื้อกระปุกนี้มาที่บ้านเมื่อไร จะสังเกตว่าน้องๆเราจะมาแย่งใช้เสมอและหมดก่อนเพื่อนประจำ งานนี้ต้องขอบคุณพลังของ Life Plankton จริงๆ

21. Moisture Surge Extended Thirst Relief, 1,900 บาท จาก Clinique ใช้ได้เสมอ ใช้ได้เรื่อยๆตลอดกาล เมื่อไรที่หน้าพังจะด้วยแดดซันเบิร์น ลมหนาว เดินทางข้ามไทม์โซน นอนไม่พอ หน้าแห้ง จะต้องรีบกลับมาหาเจลสีพีชกระปุกนี้ เอามาควักๆทาๆๆ ทาเหมือนเป็นมาส์กเลย แล้วถึงจะหลับตาลงได้ เพราะตื่นขึ้นมาผิวก็จะกลับมาชุ่มชื่นฟื้นตัวเหมือนเดิม

22. The Renewal Oil , ประมาณ 9,900 บาท จาก La Mer เป็นออยล์ที่ใช้จริงจังอีกตัว ชอบตอนช่วงเดินทางไปที่อากาศเย็น ใช้เดี่ยวๆหรือผสมกับมอยเจอร์ไรเซอร์ จะช่วยคีปให้ผิวเราชุ่มชื่นนาน ไม่แห้งลอกเป็นขุย และยังช่วยลดเลือนพวกริ้วรอยเล็กๆด้วย เรียกว่าทางแบรนด์ทำได้ดีกับการเอาส่วนผสมเอกลักษณ์อย่าง Miracle Broth มาปรับให้เข้มข้นขึ้น แต่อยู่ในเทกเจอร์ที่ใช้แล้วสบายผิวอย่างที่สุด

23. Dior Prestige Le Nectar , ประมาณ 13,000 บาท จาก Dior ลองใช้สกินแคร์ของดิออร์มาหลายตัว แต่ไม่ค่อยปิ๊ง แต่พอมาเจอของไลน์ Prestige และตัวเซรั่มนี้ต้องบอกว่าใช่เลย เป็นเซรั่มเนื้อกึ่งออยล์ผสานสารสกัดจากโรส เดอ กรองด์วิลล์ (Rose de Grandville) ที่เหมาะกับผิววัย 30 ขึ้นไปมาก เพราะในวัยที่ผิวเริ่มล้าง่ายแล้ว เซรั่มนี้เข้าไปฟื้นถึงข้างในผิวจริงๆ ทำให้ผิวเราแข็งแรงขึ้น สัมผัสได้ถึงผิวที่เปลั่งปลั่งและกระชับ และกลิ่นเป็นกลิ่นกุหลาบที่หอมผู้ดีมาก

24. Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex II ,4,500 บาท จาก Estee Lauder หนึ่งในสกินแคร์สุดคลาสิกที่ทำได้สมชื่อ พอทาก่อนนอนแล้วในช่วงข้ามคืนตื่นเช้ามา ผิวเราจะเปลี่ยนไปเลย แน่น เนียน เต่งตึงอย่างน่าอัศจรรย์ ตั้งแต่ขวดแรกที่ใช้เมื่อ 10 ปีก่อน ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นว่ามีเซรั่มแนวแอนตี้เอจจิ้งตัวไหนจะเทียบรุ่นได้

25. Hada Labo Super Hyaluronic Acid Hydrating Lotion, ประมาณ 620 บาท จาก Hada Labo โลชั่นใช้ตบๆเข้าผิวที่ใช้ได้ง่ายๆทุกวัน เป็นชิ้นพื้นฐานเตรียมผิวให้ชุ่มชื่นพร้อมรับสกินแคร์ตัวอื่น ของเขาเด็ดตรงที่ผสานไฮยาลูโรนิกแอซิดสามแบบเข้าถึงทุกชั้นผิวเลย

26. Sublimage L’Essence ,ประมาณ 14,900 บาท จาก Chanel ถ้าอยากตื่นมาหน้าใส ไม่โทรม พลังของสารสกัดจาก Golden Champa และ Light Plant Harungana ในเอสเซนส์ขวดนี้ช่วยได้ ใช้เมื่อไรเช้ามาไม่เคยผิดหวัง เป็นเอสเซนคอนเซปต์ดีทอกซ์สารพิษในผิวตัวแรกที่ใช้แล้วรู้สึกว่าเวิร์ก

27. Pro-Collagen Marine Cream Ultra-Rich, ประมาณ 3,500 บาท จาก Elemis เนื้อครีมเข้มข้น แต่ทาแล้วซึมซาบ ไม่เหนอะหนะเลย ทาเสร็จแล้วเราก็จะอมยิ้ม แฮปปี้ที่หน้าของเรามันอิ่มฟูขึ้นมา และพอใช้ไปจนหมดสักกระปุกนี้ฟีลได้เลยว่าหน้าเราดูเด็กขึ้น ใสขึ้น เพราะเข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนจริงๆ ถ้ายิ่งเริ่มใช้เร็วตอน 20 กว่าๆ ยิ่งเห็นผลชัดเลยว่ามาถึง 30, 40 แล้วผิวคุณจะแน่นจากข้างใน

28. The Concentrate, 18,300 บาท จาก La Mer ร่มชูชีพสำหรับผิว! เมื่อผิวถึงจุดแบบพังจริงๆ และไม่มีอะไรจะช่วยได้ ทั้งแห้ง ลอก แดงเพราะไปทำเลเซอร์มาแต่พอใช้ตัวนี้ดู และปรากฎว่าในเนื้อเข้มข้นแต่ทาแล้วหายไปในผิวซ่อนพลังมหัศจรรย์ของมิราเคิล บรอธที่ช่วยปลอบประโลมผิวเรา และให้ผิวกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

29. Egyptian Magic Cream ,ประมาณ 2,000 บาท จาก Egyptian Magic สารพัดประโยชน์ในกระปุกเดียว ใช้ได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ถ้ามองข้ามเรื่องกลิ่นอะไรไป  กระปุกนี้วิเศษตรงเนื้อบาล์มที่ค่อยๆกลายเป็นออยล์พอทาลงผิวช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นในผิวได้ดี เราเคยใช้ผจญลมหนาวในนิวยอร์กมาแล้ว ต้องบอกว่ากระปุกเดียวเอาอยู่ เป็นทั้งเคลนเซอร์ มอยเจอร์ไรเซอร์ มาส์ก และบาล์มแก้ผื่นคัน จนถึงอาการผิวเท้าแตกแห้ง

30. Perfecting Toning Lotion, ราคาประมาณ 420 บาท จาก Yves Rocher เราชอบความเย็นสดชื่นของโทนเนอร์เนื้อโลชั่นขวดนี้มากๆ กลิ่นหอมอ่อนๆทำให้การดูแลผิวมีความสุข เวลาใช่ค่อยๆหยดบนสำลี เนิื้อโลชั่นเข้มข้นมาก เมื่อเช็ดบนผิว ความเย็นสบายแผ่ไปทั่วใบหน้า จะใช้คู่กับเคล็นเซอร์น้ำของอีฟ โรเช

31. IDEALIA Skin Sleep ,ราคาประมาณ 1,800 บาท จาก Vichy เป็นครีมทรีตเม้นท์ขั้นแอดวานซ์ มีส่วนผสมของกรดโฮยาลูโรนิก ช่วยให้ผิวอ่ิมฟู LHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว และวิตามินบี3 ปกติช่วงหน้าร้อนเรามักเลี่ยงทาครีมหนาๆเวลานอน ตัวนี้ืเป็นครีมบาล์ม ทาแล้วชุ่มชื่น ผิวไม่มันแต่เนียนนุ่มดี

32. Hydragenist Moisturiser Serum , ราคาประมาณ1,750 บาท จาก LIERAC เซรั่มที่เปลี่ยนผิวแห้งเป็นขุยให้กลายเป็นผิวชุ่มน้ำ มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกช่วยให้ผิวอ่ิมฟู ใช้เพียง 2-3 หยดทาบนผิวหน้า เพียงแป๊ปเดียว เซรั่มซึมสู่ผิวจนหมด เราลองแตะผิวดู จากที่แห้งๆ กลายเป็นอ่อนนุ่ม จากนั้นจึงตามด้วยเดย์ ครีม

33. Gesichtscreme , ราคาประมาณ 950 บาท จาก LOUIS WIDMER ผลิตภัณฑ์ของแพทยท์ผิวหนังสวิสเซอร์แลนด์ ครีมเข้มข้น เวิร์คมากกับผิวที่แพ้ระคายเคืองเนื่องจากอากาศแห้ง เป็นครีมสามัญประจำบ้าน ใช้ได้ทั้งชาย-หญิง เวลามีอาการคันยิบๆ เป็นผดนิดหน่อย ทุกคนในบ้านต้องหยิบตัวนี้ ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง และปราศจากน้ำหอม

34. Alcohol Free Toner, ราคาประมาณ 200 บาท จาก Neutrogenaโทนเนอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย และผิวแห้ง ปราศจากแอลกอฮอลล์ ใครที่เคยแพ้ ใช้โทนเนอร์ขวดนี้ สบายใจได้ หลังเช็ดผิว ลองสัมผัสดู จะรู้เลยว่าผิวมีความสมดุลไม่แห้งและไม่มัน ที่เมืองไทยหาซื้อยากหน่อย ต้องลองไปดูร้านขายยา

35. OR ROUGE Huile Voluptueuse , ราคาประมาณ 8,500บาท จาก YSL ผลิตภัณฑ์ YSL ตระกูล Or Rouge จะมีส่วนผสมหลักที่สกัดจาก saffron flower ซึ่งมีวิตามิน เอ ซี ช่วยต้านการอักเสบ น้ำมันบำรุงผิวขวดนี้ มีความเข้มข้นของส่วนผสมที่เป็นลิควิด จึงไม่ทำให้ผิวมัน แต่ซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สามารถใช้ได้ทุกฤดู

36. Hello Mirror Guess My Age Day Cream SPF10 , ราคาประมาณ 250 บาท จาก HEMA ช่วงหน้าspring/summer อุณหภูมิไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ผิวจะเริ่มมัน บางวันทอดไข่ได้ ต้องเปลี่ยนครีมจากสูตรเข้มข้นมาเป็นเบาบาง ตัวนี้เป็นเนื้อมูสเบามากๆ ทาแล้วแห้งเนียนกึ่งๆไพรเมอร์ แถมมีสารกันแดด SPF 10 ซึ่งถือว่ากำลังดี

37. Care Gel ,ราคา 69 บาท จาก Acna “สิว”ไม่ว่าฤดูไหนก็เกิดได้ เราจึงพกเจลแต้มสิวไว้ตลอด หลังล้างหน้าแต้มเจลที่หัวสิว และยังใช้แต้มระหว่างวัน ทาบนเมคอัพได้เลย ไม่เป็นคราบแน่นอน

38. Hydraskin Serum, ราคาประมาณ1,900 บาท จาก Darphin เซรั่มที่เหมือนน้ำ แต่ให้ความซึมลึกสู่ใต้ชั้นผิว ส่วนผสมของเซรั่มนี้ 93% มาจากธรรมชาติ ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง ใช้เพียงแค่ 2 ปั้ม และแตะเบาๆทั่วหน้า ผิวก็จะสดฉ่ำชุ่มน้ำ โกลว์ๆ เหมือนผิวสุขภาพดี

39. Black Rose Precious Face Oil , 7,300 บาท จาก Sisley ออยล์ผสานสารสกัดจากแบล็กโรสเป็นออยล์ขวดแรกที่กรุยทางให้เรารู้จักบำรุงผิวด้วยออยล์ และหลังจากนั้นก็ติดใจมาตลอด เพราะสูตรนี้เป็นเนื้อแบบ dry oil ที่ซึมซาบไว ให้ผิวเรานุ่มมีชีวิตชีวาขึ้นได้ทันที และการที่ได้ค่อยๆเอาฝ่ามือประคบออยล์ให้เข้าผิว สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆเป็นกิจวัตรที่ทำแล้วสมองโล่งผ่อนคลาย แถมเมื่อใช้ไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าผิวที่เคยแห้งกร้าน แต่ก็ชอบมันตรงทีโซน กลับมาสมดุลขึ้น

40. Creme de La Mer Soft Moisturising Crème, ราคา 7,100 บาท จาก La Mer ช่วงที่อากาศหนาวจัด ผิวแห้งมาก โดยเฉพาะจมูกลอกเป็นขุย Creme de la Mer ชิ้นเดียวเอาผิวแห้งอยู่หมัด เราใช้ทุกวันเป็นเดย์ครีมก่อนแต่งหน้า ช่วยให้แต่งหน้าง่าย ที่เป็นขุยหาย และใช้เป็นไนท์ครีมช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขณะนอนหลับ