มาเติมปากให้สวยปังกับลิควิดลิปสติก เนื้อแมตต์ เทรนด์ใหม่มาแรงที่กำลังครองใจสาวๆตอนนี้
เดี๋ยวนี้กลุ่มลิปสติกในท้องตลาดที่เห็นชัดว่ากำลังมาแรงมากตอนนี้คือ ลิควิดลิปสติก ประเภทก้านจุ่ม ที่รวมเอาทุกความต้องของมนุษย์คลั่งลิปสติกอย่างเราๆไว้ได้ คือ ลิปสติกที่ให้เนื้อแมตต์
เม็ดสีสดชัดติดทนนาน เนื้อไม่แห้งกร้านเหมือนทากาวและมาในแพคเกจจิ้งก้านจุ่มหรือหลอดหัวปลายฟองน้ำให้เกลี่ยสะดวกขึ้น และทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เคาน์เตอร์แบรนด์ไปยังดรักสโตร์ออกมามากจนจะทากันไม่หมดอยู่แล้ว แต่ก็หักห้ามใจยากเหลือเกิน เพราะแต่ละแบรนด์พัฒนาเนื้อและสีให้น่าใช้มากและไม่แห้งกรังเหมือนลิปแมตต์ในอดีต งั้นมาดูกันเลยดีกว่าว่ามีแบรนด์ไหนน่าใช้บ้าง
1.Retro Matte Liquid Lipcolour (1,100 บาท) จาก M.A.C
ชอบที่เนื้อสีสดมาก สวยทุกเฉดเลย ขนาดสีนู้ดยังทำให้เรียวปากดูเด้งขึ้นมาได้ แตะสีที่ปากเพียงนิดเดียวก็สามารถเกลี่ยเนื้อกระจายได้ทั่วปาก เราลองซื้อ Quite the Standout เป็นเฉดที่ไม่เคยใช้เลยอยากลอง และพอผสมกับสีนู้ดพีช Back In Vogue จะให้สีส้มละมุนกำลังดีเลย
2.Lip Maestro (ประมาณ 1,305 บาท) จาก Giorgio Armani
เป็นลิปรุ่นขายดีมากของแบรนด์ ไปทีไรสีหมดทุกทีโดยเฉพาะ #500 ออกนู้ดอมชมพู #400 สีแดงสด และ #502 สีชมพูอมม่วง ในบ้านเรามีจำหน่ายที่คิง พาวเวอร์ซึ่งถ้าใครมีบัตรลด ราคาก็จะถูกลงมาอีก นอกนั้นหาซื้อได้ในเว็บไซต์ ส่วนตามร้านในต่างประเทศจะมีเฉดให้เลือกเยอะกว่านี้
3.Tarteist Lip Paint (920 บาท) จาก Tarte
ได้ยินเสียงบอกต่อว่าดี เลยกะจะไปสอยที่ร้าน Sephora ซะหน่อย เนื้อดีมากเลย สีชัดและที่ชอบคือ เบาสบายบนผิวปาก ทิ้งไว้นานๆก็ไม่แห้งตึง แต่สีหมดเร็วมากโดยเฉพาะ TBT ชมพูอมน้ำตาลนู้ด ส่วนสีอื่นก็สวยโดยเฉพาะโทนแดงและฟูเชีย เราซื้อสี Lovespell เป็นชมพูสด คิดว่าน่าจะใช้ได้นานทีเดียวเพราะใช้นิดเดียวก็ชัดมากแล้ว
4.Melted Liquified Long Wear Lipstick (1,090 บาท) จาก Too Faced
เป็นลิปรุ่นที่ฮอตที่สุดจนนับวันเริ่มมีเฉดสีใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มโทนสีน้ำตาล Melted Chocolate ที่กำลังอินเทรนด์ในขณะนี้ เป็นกลุ่มใหม่ที่คลุมโทนตั้งแต่นู้ดไปยังน้ำตาลเข้ม แถมมีกลิ่นและรสแนวขนมหวานด้วย ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นคงต้องบายกะกลุ่มนี้ แต่สีคลาสสิกดั้งเดิมจะให้กลิ่นอ่อนๆ และมีสีสวยๆให้เลือกเยอะ มาในหลอดหัวฟองน้ำ ทาสะดวกจากตัวหลอดได้เลย ล่าสุดเพิ่งออกกลุ่ม Melted Metal ซึ่งเป็นกลุ่มลิปชิมเมอร์
5.Tint in Gelato (1,050 บาท) จาก Shu Uemura
ลิปทินต์เนื้อเนียนนุ่ม เป็นรุ่นที่ออกมาสักพักแล้วแต่ยังออกสีใหม่มาเรื่อยๆเพราะมีเสียงตอบรับดี ก้านปลายฟองน้ำขนาดกำลังดีทำให้เกลี่ยง่าย เราชอบสีแดงคลาสสิก AT 01 ทาแล้วปากปังมาก ส่วนโทนสีชมพูจะขายดีและมีหลายเฉดให้เลือกอย่างละเอียด
6.Pure Color Envy Lip Potion (1,250 บาท) จาก Estee Lauder
เป็นลิปกลอสครีมที่ให้ผลลัพธ์เหมือนลิปสติก ทีแรกทาจะดูเงาๆบนปาก แต่พอซับหรือแตะๆที่เงาๆออกก็กลายเป็นแมตต์สเทนซึ่งติดทนนานเหมือนกัน ตอนนี้เทรนด์ปากสีน้ำตาลยุค ’90 มาแรงจริงๆทำให้ทางแบรนด์เพิ่งออกกลุ่มเฉดสีใหม่โทนนู้ดสว่างไปจนถึงน้ำตาลเข้ม
7.Velvet Matte by Color Sensational (299 บาท) จาก Maybelline
ลงตัวทุกอย่างทั้งแพคเกจจิ้งบางเบาขนาดเล็กพกพาสะดวก ไปจนถึงก้านเกลี่ยปลายฟองน้ำอมเนื้อสีกำลังดี ชอบที่พอเกลี่ยแล้วจะรู้สึกเบาสบายผิวปากและเนื้อสีแนบเนียนเหมือนกำมะหยี่ ควรทาย้ำอีกรอบเพื่อให้สีแน่นขึ้น สีส่วนใหญ่จะออกโทนเข้ม เช่น แดง ส้ม และชมพูอมม่วง
8.Rouge Edition Velvet (ประมาณ 440 บาท) จาก Bourjois
อีกหนึ่งลิปสติกเนื้อดี ทาแล้วช่วยกลบร่องปากได้เรียบเนียน มีสีให้เลือกไม่มากแต่สวยทุกเฉดเลย แต่เรื่องกลิ่นไม่ค่อยโดนเท่าไหร่แต่พอทิ้งสักพักก็หาย ถ้าผ่านพ้นตรงจุดนี้ได้ที่เหลือก็โอเคเลย ทาแล้วสีสดแน่นมากเหมือนทาลิปสติกราคาแพง
9.Apocalips Lip Velvet (ประมาณ 330 บาท) จาก Rimmel
เป็นแบรนด์จากประเทศอังกฤษที่ยังไม่มีขายในบ้านเราอย่างเป็นทางการ ทาครั้งแรกเหมือนเนื้อน้ำเคลือบที่ผิว สักพักจะแห้งเป็นเนื้อแมตต์ เนื้อเบามากและไม่แห้งตึง กลุ่มนี้จะมีสีให้เลือกไม่มากแต่สวยทุกสีเลย
10.Ultra HD Matte Lipcolor (ประมาณ 320 บาท) จาก Revlon
เพิ่งไปสอยมาสดๆร้อนๆ เป็นลิปใหม่ล่าสุดมาในเฉดสีสวยสำหรับทุกวัน เนื้อจะดูวาวเมื่อทาบนปาก แต่ถ้าเกลี่ยหรือซับออกเล็กน้อยก็จะกลายเป็นเนื้อครีมแมตต์ที่ให้สีสดชัด เนื้อครีมเกลี่ยง่ายและ ให้กลิ่นเหมือนขนมหวาน
11.Soft Matte Lip Cream(229 บาท) จาก NYX
นับว่าคุ้มค่ามากกับสีลิปสติกที่ได้ในราคาเท่านี้ ทำให้มาครั้งเดียวจะกลายเป็นซื้อกลับไปมากกว่า 1 สีทุกที แพคเกจจิ้งเล็กหัวปลายฟองน้ำทาง่าย มีสีให้เลือกเยอะ พอทาแล้วเหมือนทาลิปสติกเนื้อครีม สักพักจะแห้งเป็นเนื้อแมตต์
12.Matte Lip Liquid (950 บาท) จาก Illamasqua
สีแน่นมาก แค่ทาตรงกลางปากแล้วเกลี่ยออกด้านข้างให้ทั่ว สีจะแน่นเนียนมากเหมือนทาลิปสติกสองรอบ เนื้อจะแห้งแมตต์ทันทีที่ทาและจะรู้สึกตึงหนึบๆที่ผิวปากเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับแห้งกร้านจนทนไม่ไหว